♦ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเหล็กกล้า

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเหล็กกล้า
เหล็กกล้ามี 2 ประเภท
เหล็กกล้าคาร์บอนและเหล็กกล้าผสมอัลลอยด์
- เหล็กกล้าคาร์บอน Carbon Steel
เมื่อเหล็กกล้ามีส่วนผสมของคาร์บอนเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้เหล็กกล้ามีความแข็งมากขึ้นและความสามารถในการชุบแข็งก็จะดีขึ้นด้วย แต่เมื่อความแข็งเพิ่มขึ้นความเหนียวของเหล็กก็จะน้อยลง ส่งผลให้การเชื่อมยากขึ้นตามไปด้วย
เหล็กกล้าคาร์บอนยังสามารถแบ่งย่อยตามปริมาณส่วนผสมของธาตุคาร์บอนได้ดังนี้
- เหล็กกล้าผสมต่ำ หรือที่เรียกกันว่าไมด์สตีล (Mild steel) เป็นเหล็กที่มีส่วนผสมของคาร์บอน 0.05-0.25% ปริมาณคาร์บอนที่ต่ำทำให้เหล็กมีความอ่อนและเหนียว เป็นเหล็กที่มีการใช้งานมากที่สุดเนื่องจากราคาที่ถูกและคุณสมบัติดีสามารถแปรรูปและทำการเชื่อมได้ง่าย ใช้ในงาน ชิ้นส่วนรถยนต์ ท่อ โครงสร้าง กระป๋องอาหาร หลังคา
- เหล็กกล้าผสมปานกลาง เป็นเหล็กที่มีส่วนผสมของคาร์บอน 0.25-0.5% มีความแข็งมากกว่าเหล็กกล้าผสมต่ำ สามารถนำไปอบชุบทางความร้อนได้ จะได้ความแข็งที่มากขึ้น ใช้ในงาน เครื่องจักร เฟือง ท่อเหล็ก รางรถไฟ
- เหล็กกล้าผสมสูง เป็นเหล็กที่มีส่วนผสมของคาร์บอน 0.5-1.5% เป็นเหล็กที่มีความแข็งมาก ทนต่อการสึกหรอ มักจะนำเหล็กที่มีคาร์บอนผสมสูงไปทำการอบชุบเพื่อเพิ่มความคุณสมบัติของเหล็กให้ดีที่สุด ใช้ในงาน เครื่องมือ ลูกปืน
เหล็กกล้าผสม Alloy Steel
เหล็กกล้าผสมเป็นเหล็กกล้าที่ผสมด้วยธาตุต่างๆ ในปริมาณรวมระหว่าง 1% ถึง 50% โดยน้ำหนัก เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติให้เป็นไปตามการใช้งาน
การผสมธาตุต่างๆเข้าไปในเหล็กกล้า ส่งผลให้
- เพิ่มสมบัติทางกล
- เพิ่มความสามารถในการชุบแข็ง ทำให้ชุบแข็งได้ง่าย
- เพิ่มให้ทนต่อการกระแทกมากขึ้น
- เพื่อให้มีความแข็งขึ้น ทนต่อการเสียดสี
- เพิ่มความสามารถการใช้งานในอุณหภูมิสูง
- เพื่อเพิ่มความสามารถในการทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี
ผลของการผสมธาตุต่างๆลงไปในเหล็กกล้า
Ref: https://en.wikipedia.org/wiki/Carbon_steel
https://www.linkedin.com/pulse/21-chemical-elements-effects-steel-mechanical-properties-jeremy-he
Ferrous metallic materials Engineers SUT
https://en.wikipedia.org/wiki/Alloy_steel