• English

♦ เพิ่มคุณภาพในการเชื่อมอลูมิเนียมแบบทิก ด้วยการเลือกใช้ทังสเตนอิเล็คโทรดที่ถูกต้อง

♦ เพิ่มคุณภาพในการเชื่อมอลูมิเนียมแบบทิก ด้วยการเลือกใช้ทังสเตนอิเล็คโทรดที่ถูกต้อง

ผู้เขียน ชัชชัย อินนุมาตร

….งานเชื่อมอลูมิเนียมที่ดี ต้องใช้เครื่องเชื่อมดี และใช้ทังสเตนอิเล็คโทรดให้ถูกต้อง การเลือกใช้ทังสเตนอิเล็คโทรดที่เหมาะสมกับงาน นับเป็นก้าวแรกของการควบคุมคุณภาพงานเชื่อม.

แม้ว่าการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี จะเป็นไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน  ทำให้วิธีการเชื่อมโลหะสามารถปฏิบัติได้ง่าย และมีระบบหรือวิธีการเชื่อมหลากหลายให้เลือกใช้ แต่ในภาคอุตสาหกรรมของไทย  การเชื่อมโลหะจำพวกอลูมิเนียม  หรือแมกนีเซียม ส่วนมากยังคงใช้กรรมวิธีการเชื่อมแบบก๊าซทังสเตนอาร์ค (Gas Tungsten Arc Welding; GTAW) หรือ ทิก (Tungsten Inert Gas; TIG) หรือที่ช่างเชื่อมทั่วไปมักจะเรียกว่า “การเชื่อมแบบอาร์กอน” เนื่องจากเป็นวิธีการเชื่อมที่ให้คุณภาพงานเชื่อมที่ดีมาก    สามารถควบคุมแนวเชื่อมได้ง่าย มีต้นทุนในการปฏิบัติงานต่ำ

แต่อย่างไรก็ตาม การเชื่อมโลหะอลูมิเนียมหรือแมกนีเซียมด้วยการเชื่อมแบบทิก   เจ้าของงานยังต้องอาศัยช่างเชื่อมที่มีความชำนาญ   คุณภาพงานเชื่อมที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ของช่างเชื่อมมากกว่าร้อยละ 80  แม้ว่าเจ้าของงานอาจจะจัดหาเครื่องเชื่อมที่ดีและอุปกรณ์ช่วยในการเชื่อมหรืออุปกรณ์ประกอบอื่นๆ  เพื่อเพิ่มคุณภาพงานเชื่อมก็ตาม  แต่ชิ้นส่วนพื้นฐานที่มีอิทธิพลต่อรูปลักษณะของแนวเชื่อม  ความกว้าง ความลึกของแนวเชื่อม  และส่งผลต่อคุณภาพงานเชื่อมโดยตรง โดยที่เจ้าของงานอาจจะมองข้ามความสำคัญไป  นั่นคือทังสเตนอิเล็คโทรด   ดังนั้นการเลือกใช้ทังสเตนอิเล็คโทรดที่ถูกต้อง  นับว่าเป็นก้าวแรกของการควบคุมคุณภาพงานเชื่อมที่สามารถทำได้ง่ายที่สุด

เจ้าของงานหรือช่างเชื่อมส่วนมากต่างเชื่อว่าทังสเตนบริสุทธิ์ (ทังสเตนรหัสสีเขียว) เหมาะสำหรับการเชื่อมอลูมิเนียมและแมกนีเซียม หรือโลหะอื่นๆที่ต้องใช้การเชื่อมแบบกระแสสลับในกระบวนการเชื่อมแบบทิก   แต่ในปัจจุบันคงต้องเปลี่ยนความเชื่อหรือแนวคิดนั้นใหม่เสียแล้ว  ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องเชื่อมสมัยใหม่ที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์   ทำให้การเชื่อมอลูมิเนียมหรือการเชื่อมโดยใช้การเชื่อมแบบกระแสสลับทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องเชื่อมที่มีการจ่ายกระแสเชื่อมแบบคลื่นสี่เหลี่ยม (Square wave)

แต่เดิมนั้นช่างเชื่อมส่วนใหญ่มักเลือกใช้ทังเสตนบริสุทธิ์สำหรับการเชื่อมแบบทิกด้วยกระแสสลับ   แต่ปัจจุบันได้มีการแนะนำว่า หากใช้เครื่องเชื่อมระบบอินเวอร์เตอร์ ควรใช้ทังสเตนที่ผสมอ๊อกไซด์ของธาตุหายาก (Rare-earth tungsten) แทนการใช้ทังสเตนบริสุทธิ์ จะให้คุณภาพงานเชื่อมดีกว่า    ดังนั้นการเลือกใช้ทังสเตนอิเล็คโทรดที่ถูกต้องจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญเสมอที่จะต้องพิจารณาเพื่อให้ได้คุณภาพของงานเชื่อมสูงสุด

 

เทคโนโลยีของเครื่องเชื่อม

เทคโนโลยีของเครื่องเชื่อมในสมัยใหม่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเครื่องเชื่อมระบบอินเวอร์เตอร์ที่มีลักษณะกระแสเชื่อมแบบคลื่นสี่เหลี่ยม (Square Wave Technology) และมีระบบความถี่สูง (High Frequency) ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมอลูมิเนียมได้ง่าย ช่างเชื่อมสามารถควบคุมลักษณะแนวเชื่อม ความกว้างหรือแคบของเปลวอาร์คได้โดยการปรับสมดุลย์ของคลื่นบวกและลบรวมถึงความถี่ของกระแสเชื่อมที่ใช้ จากการปรับตั้งโดยตรงที่ชุดควบคุมของเครื่องเชื่อม

ตามหลักการของการเชื่อมแบบกระแสสลับนั้น เครื่องเชื่อมจะจ่ายกระแสเชื่อมออกจากเครื่องเชื่อมผ่านสายเชื่อมไปยังปลายทังสเตนอิเล็คโทรด และชิ้นงานเชื่อม สลับกันไปมาในช่วงคลื่นบวกและช่วงคลื่นลบระหว่างที่ทำการเชื่อม ด้วยความถี่ที่กำหนดโดยการปรับตั้งของช่างเชื่อม  โดยที่ในช่วงคลื่นที่เป็นบวกความร้อนร้อยละ 70 จะอยู่ที่ปลายทังสเตน ส่วนความร้อนที่เหลือร้อยละ 30 จะอยู่ที่ชิ้นงานเชื่อม  ในทางกลับกัน เมื่อเครื่องเชื่อมจ่ายกระแสในช่วงคลื่นที่เป็นลบ  ความร้อนร้อยละ 70 จะไปอยู่ที่ชิ้นงาน ในขณะที่ความร้อนอีกร้อยละ 30 จะกลับไปอยู่ที่ปลายทังสเตน  (รูปที่ 1)

จากการที่ความร้อนสูงที่เกิดขึ้นที่ปลายทังสเตนในช่วงคลื่นที่เป็นบวก ทำให้ทังสเตนมีแนวโน้มที่จะมีการเปลี่ยนรูป โดยเฉพาะทังสเตนบริสุทธิ์ ที่มีความทนทานต่อความร้อนต่ำกว่าทังสเตนที่ผสมอ๊อกไซด์ของธาตุหายาก (Rare-Earth Tungsten) โดยมักจะพบว่าทังสเตนบริสุทธิ์จะฟอร์มตัวเป็นทรงกลมมนอย่างรวดเร็วเมื่อทำการอาร์ค (รูปที่ 2 ค) ทำให้ได้เปลวอาร์คที่กว้างและส่งผลให้แนวเชื่อมที่ได้มีขนาดใหญ่และควบคุมได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ปัจจุบันมีการผสมอ๊อกไซด์ของธาตุหายาก เช่น ธอเรียม ซีเรียม แลนทาเนียม หรือเซอร์โคเนียม เข้ากับทังสเตนบริสุทธิ์เพื่อให้ทนต่อความร้อนและคงรูปได้ดีขึ้นในระหว่างทำการเชื่อม และนำมาใช้เชื่อมอลูมิเนียมด้วยกระแสสลับ ด้วยเครื่องเชื่อมแบบอินเวอร์เตอร์  แทนการใช้ทังสเตนบริสุทธิ์อย่างกว้างขวาง การใช้ Rare-Earth Tungsten ทำให้ช่างเชื่อมสามารถลับปลายทังสเตนให้เป็นมุมแหลมเฉกเช่นการเชื่อมด้วยกระแสตรง (รูปที่ 2 ก และ ข) ส่งผลให้ช่างเชื่อมสามารถที่จะปรับแต่งและควบคุมขนาดแนวเชื่อมหรือกำหนดให้เปลวอาร์คไปยังจุดที่ต้องการเชื่อมได้อย่างแม่นยำกว่าการใช้ทังสเตนบริสุทธิ์

ความสามารถในการคงรูปของปลายทังสเตนขึ้นอยู่กับการปรับค่าของความถี่และกระแสเชื่อมในช่วงคลื่นที่เป็นลบ โดยหากใช้ค่าช่วงคลื่นลบและความถี่ของกระแสเชื่อมที่มากขึ้นจะทำให้ทังสเตนสามารถคงรูปได้นาน  โดยทั่วไปช่างเชื่อมมักจะปรับค่าของช่วงคลื่นลบประมาณ 60-85 เปอร์เซนต์ ใช้ความถี่ประมาณ 180-200 เฮริตซ์ แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ Rare-Earth Tungsten ก็เปิดโอกาสให้ช่างเชื่อมสามารถปรับค่าความถี่และช่วงคลื่นลบให้น้อยกว่านี้ได้ โดยปลายทังสเตนอาจจะมนเล็กน้อยแต่ยังคงลักษณะปลายแหลมเป็นส่วนมาก     (รูปที่ 2 ง)

ชนิดของ Rare-Earth Tungsten

Rare-Earth Tungsten มีอยู่มากมายหลายชนิด ที่นิยมใช้และรู้จักกันมากที่สุดคือทังสเตนผสมธอเรียม 2% หรือที่รู้จักกันในลักษณะของทังสเตนรหัสสีแดง โดยส่วนมากจะนำไปใช้กับการเชื่อมโลหะทั่วไปที่ไม่ใช่อลูมิเนียมหรือแมกนีเซียมโดยใช้การเชื่อมแบบกระแสตรงต่อสายเชื่อมขั้วลบ (DCEN; Direct Current Electrode Negative) เนื่องจากให้ความสามารถในการรักษารูปทรง   อีกทั้งให้ความเสถียรของอาร์คได้ดีกว่าทังสเตนบริสุทธิ์

จากการศึกษาพบว่าธอเรียมเป็นธาตุที่สามารถจ่ายอนุภาคอัลฟ่า ที่เป็นกัมมันตภาพรังสีอ่อนๆ ได้  จึงมีการแนะนำให้พยายามหลีกเลี่ยงฝุ่นผงที่เกิดจากการลับทังสเตนที่ผสมธอเรียม และหากเป็นไปได้ควรเลือกใช้ทังสเตนชนิดอื่นแทน  ด้วยเหตุนี้จึงมีการค้นคว้าเพื่อหา Rare-Earth ชนิดอื่นมาทดแทนธอเรียม อย่างมากมายในปัจจุบัน

ด้วยเหตุที่มีการใช้ทังสเตนหลากหลายชนิด จึงได้มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับทังสเตนอิเล็คโทรด ที่ใช้ในกระบวนการเชื่อมแบบทิก โดยมาตรฐานที่กำหนดขึ้นนั้นจะระบุถึงชนิดและส่วนผสมของ Rare-Earth โดยบอกเป็นรหัสสีที่ปลายด้านใดด้านหนึ่งของแท่งทังสเตน เพื่อให้ผู้ใช้ทราบถึงชนิดของทังสเตนและนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง แต่อย่างไรก็ตามการเลือกใช้ทังสเตนโดยพิจารณาจากรหัสสีเพียงอย่างเดียวนั้นอาจจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ หากพิจารณาจากตารางที่ 1 จะพบว่ามีการกำหนดมาตรฐานของทังสเตนอยู่ 2 มาตรฐาน คือ ตามมาตรฐาน AWS A5.12 และ ISO 6848 ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการกำหนดรหัสสีของสองมาตรฐานนั้นไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทังสเตนที่ผสมซีเรียมที่ได้รับความนิยมในทุกวันนี้

โชคร้ายที่ว่าในไทยนั้นไม่ได้ผลิตทังสเตนอิเล็คโทรดขึ้นใช้เอง  โดยทังสเตนที่ใช้ในอุตสาหกรรมนั้นเป็นทังสเตนที่นำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นผู้ใช้งานจะต้องเรียนรู้ถึงชนิดของทังสเตนและรหัสสีของแต่ละมาตรฐานเพื่อที่จะได้เลือกใช้งานอย่างถูกต้อง

 

ชนิด รหัสสี และการใช้งานของทังสเตน(อ้างอิงตามมาตรฐาน AWS A5.12)

          ทังสเตนบริสุทธิ์ (Pure Tungsten) เป็นทังสเตนที่นิยมใช้สำหรับการเชื่อมอลูมิเนียมด้วยกระแสสลับ โดยมีรหัสสีเป็นสีเขียว   มีปริมาณทังสเตนอย่างน้อย 99.5 % ให้ความสม่ำเสมอในการอาร์คดี เมื่อทำการเชื่อมด้วยกระแสสลับแบบ Square Wave สมดุลย์ (Balance Square Wave) และยังใช้กับเครื่องเชื่อมที่จ่ายกระแสเชื่อมแบบ Sine Wave ได้อีกด้วย ทังสเตนจะฟอร์มปลายเป็นลักษณะกลมมนเมื่อทำการเชื่อม    รักษาความกลมและความสะอาดของปลายทังสเตนได้ดี สามารถใช้กับกระแสเชื่อมต่ำได้ดี ราคาไม่แพง แต่มีการสิ้นเปลืองสูงกว่าทังสเตนชนิดอื่นๆ ทังสเตนชนิดนี้ เหมาะสำหรับการเชื่อมอลูมิเนียม / แมกนีเซียม ด้วยกระแสสลับ แต่ไม่เหมาะกับการเชื่อมด้วยกระแสตรง เนื่องจากจะเริ่มต้นอาร์คได้ยาก เมื่อเทียบกับทังสเตนประเภท Thoriated หรือ Ceriated

ทังสเตนผสมธอเรียม  (Thoriated Tungsten; ThO2)

เป็นทังสเตนที่หาง่ายและนิยมใช้กันมากที่สุด โดยเฉพาะชนิด Thoriated 2% (สีแดง) ธอเรียมช่วยให้เกิดการปล่อยอิเล็คตรอนเมื่อเริ่มอาร์คได้ดี ทำให้เริ่มต้นการอาร์คได้ง่าย นอกจากนั้นการเพิ่มปริมาณธอเรียม ยังช่วยให้การเริ่มอาร์คทำได้ง่ายขึ้น จึงมีการผสมธอเรียมในปริมาณต่างๆ กัน เช่น 3 หรือ 4 % สามารถใช้กระแสเชื่อมได้สูง ให้ความสะอาดของแนวเชื่อมดี มีลักษณะของเปลวอาร์คเป็นจุดที่แน่นอน ทำให้ควบคุมแนวเชื่อมได้ดี ปลายทังสเตนมีความต้านทานต่อการหลุดร่อนลงไปรวมกับแนวเชื่อมมากกว่าทังสเตนชนิดอื่นๆ ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเสียหายของแนวเชื่อม

ทังสเตนผสมธอเรียมเหมาะสำหรับการเชื่อมด้วยกระแสตรงทั้ง DCEN และ DCEP ใช้เชื่อมโลหะเหล็ก สแตนเลส ไทเทเนียม โลหะผสมนิคเกิล เนื่องจากธอเรียมจะกระจายตัวอยู่ทั่วเส้นทังสเตน ทำให้รักษาความแหลมของปลายที่ลับมุมไว้ได้ดี   แต่เมื่อใช้กับการเชื่อมด้วยกระแสสลับ จะยากต่อการรักษาสถาพ ของปลายทังสเตน ปัจจุบันได้ศึกษาพบว่าธอเรียมเป็นธาตุที่สามารถจ่ายอนุภาคอัลฟ่า ที่เป็นกัมมันตภาพรังสี จึงมีการผลิตทังสเตนชนิดอื่นมาทดแทน และทำให้การใช้งานของทังสเตนประเภทนี้เริ่มลดน้อยลง

 

ทังสเตนผสมซีเรียม  (Ceriated Tungsten; CeO2)

มีประสิทธิภาพคล้ายกับทังสเตน ประเภท thoriated tungsten. เหมาะสำหรับการเชื่อมด้วยกระแสตรงที่ระดับกระแสต่ำๆ ได้ดีมาก  และยังสามารถนำไปใช้เชื่อมอลูมิเนียมด้วยกระแสสลับโดยลับปลายทังสเตนให้เป็นปลายแหลมได้อีกด้วย แต่ต้องใช้กับเครื่องเชื่อมที่จ่ายกระแสเชื่อมแบบ Square wave เนื่องจากหากเป็นเครื่องเชื่อมที่จ่ายกระแสเชื่อมแบบ Sine wave จะทำให้ทังสเตนฟอร์มปลายเป็นลักษณะกลมมน ทังสเตน Ceriated มีความสามารถในการเริ่มต้นการอาร์คได้ง่าย สามารถใช้กระแสเริ่มต้นอาร์คต่ำกว่าการใช้ทังสเตนแบบ thoriated ได้ถึง 10 % จึงนิยมใช้กับการเชื่อมงานบางๆ หรือการเชื่อมด้วยระบบอัตโนมัติ เช่นการเชื่อมท่อแบบอัตโนมัติ ให้ความสม่ำเสมอในการอาร์คดี อายุการใช้งานนาน สามารถใช้แทนทังสเตน thoriated ได้ดี

ทังสเตนชนิดนี้กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันเนื่องจากไม่มีธาตุผสมที่เป็นกัมมันตภาพรังสี  อีกทั้งสามารถใช้กระแสเชื่อมได้ทั้งกระแสตรงและกระแสสลับ หรืออาจจะกล่าวได้ว่ามีทังสเตนชนิดนี้เพียงชนิดเดียวก็สามารถที่จะรองรับงานเชื่อมได้ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม ทังสเตนชนิดนี้ ไม่เหมาะกับการเชื่อมที่กระแสเชื่อมสูงๆ เนื่องจากอ๊อกไซด์ที่ผสมนั้นจะสลายตัวอย่างรวดเร็วจากผลของความร้อนสูง  และข้อพึงสังเกตุอย่างหนึ่งคือ ทังสเตนชนิดนี้จะมีการให้รหัสสีตามมาตรฐาน AWS เป็นรหัสสีส้ม ส่วนตามมาตรฐาน ISO 6848 จะให้รหัสสีเทา ดังนั้นเมื่อท่านได้รับทังสเตนสีส้มหรือสีเทามาใช้ จำเป็นเสมอที่จะต้องทราบว่าทังสเตนที่ท่านถืออยู่นั้น อ้างอิงตามมาตรฐานใด

 

ทังสเตนผสมแลนทาเนท (Lanthanated Tungsten; La2O3)

มีประสิทธิภาพคล้ายกับทังสเตน ประเภท thoriated tungsten. เริ่มต้นการอาร์คได้ง่าย มีอัตราการสิ้นเปลืองต่ำ  มีคุณสมบัติทั่วไปคล้ายๆ กับทังสเตนประเภท  Ceriated  แต่มีความสามารถในการจุดอาร์คซ้ำๆ กัน(restart arc) ได้ดีมาก  เหมาะสำหรับการเชื่อมแบบพัลส์ และการเชื่อมที่มีการสตาร์ทอาร์คบ่อยๆ   ให้ความสม่ำเสมอในการอาร์คดี  นอกจากนั้นยังสามารถนำไปใช้เชื่อมอลูมิเนียมด้วยกระแสสลับโดยลับปลายทังสเตนให้เป็นปลายแหลมได้อีกด้วย แต่ต้องใช้กับเครื่องเชื่อมที่จ่ายกระแสเชื่อมแบบ Square wave เนื่องจากหากเป็นเครื่องเชื่อมที่จ่ายกระแสเชื่อมแบบ Sine wave จะทำให้ทังสเตนฟอร์มปลายเป็นลักษณะกลมมน   การเพิ่มปริมาณ   Lantanate จะทำให้ความสามารถในการใช้กระแสเชื่อมสูงขึ้น ดังนั้นจึงมีการผสม Lantanate ในปริมาณที่ต่างๆ กัน เช่น 1, 1.5 หรือ 2 % โดยจะให้รหัสสีดำสำหรับการผสมแลนทาเนทประมาณ 1 เปอร์เซนต์   ให้รหัสสีทองสำหรับการผสมแลนทาเนทประมาณ 1.5 เปอร์เซนต์   และให้รหัสสีน้ำเงินสำหรับการผสมแลนทาเนทประมาณ 2 เปอร์เซนต์   โดยที่มาตรฐาน AWS และ ISO จะมีการให้รหัสสีสำหรับทังสเตนประเภทนี้ไม่แตกต่างกัน

 

ทังสเตนผสมเซอร์โคเนท (Zirconated Tungsten; ZrO2)

เหมาะสำหรับการเชื่อมด้วยกระแสสลับ ให้ความเสถียรของอาร์คได้ดีมาก   รักษาความกลมของปลายทังเสตนได้ดีกว่าทังสเตนบริสุทธิ์   มีความต้านทานต่อสิ่งสกปรกสูง ให้การเริ่มต้นอาร์คได้ดี  นิยมใช้เมื่อประสบปัญหาทังสเตนสกปรกจากการเชื่อม  สามารถใช้กระแสเชื่อมได้เทียบเท่าหรือสูงกว่าทังสเตนประเภท Thoriated ทังสเตนชนิดเซอร์โคเนทนี้จะให้รหัสสีระหว่างมาตรฐาน AWS และ ISO แตกต่างกัน โดยที่มาตรฐาน AWS เป็นรหัสสีน้ำตาล ส่วนตามมาตรฐาน ISO 6848 จะให้รหัสสีขาว

 

 ข้อมูลจากการใช้งาน

จากการเก็บข้อมูลการใช้งานทังสเตนประเภท Ceriated และ Lanthanated โดยลับปลายทังสเตนเป็นมุมแหลมแบบไม่ตัดปลาย (Point End) ประมาณ 30 องศา เปรียบเทียบกับการใช้ทังสเตนบริสุทธิ์ ที่มีปลายกลมมนในการเชื่อมอลูมิเนียม โดยการใช้เครื่องเชื่อมแบบอินเวอร์เตอร์ พบว่า ความกว้างของแนวเชื่อมจากการเชื่อมอลูมิเนียมโดยการใช้ทังสเตนประเภท Ceriatedและ Lanthanated กับการใช้ทังสเตนบริสุทธิ์นั้นไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (รูปที่ 3)

ในส่วนของการหลอมละลายหรือการหลอมลึก มีการศึกษาพบว่าการลับปลายทังสเตนที่มุมต่างๆ กันจะมีผลต่อความกว้างและความลึกของแนวเชื่อมในกรณีการเชื่อมด้วยกระแสตรงโดยต่อสายเชื่อมขั้วลบ (รูปที่ 4) แต่ในกรณีของการเชื่อมด้วยกระแสสลับโดยลับปลายทังสเตนเป็นมุมต่างๆ กันนั้น ยังไม่มีการศึกษาที่เด่นชัด

อย่างไรก็ตามในการทดสอบการเชื่อมเบื้องต้น โดยการเชื่อมด้วยมือพบว่าการใช้ทังสเตน Ceriated และ Lanthanated โดยลับปลายทังสเตนให้เป็นมุม เป็นผลดีและสามารถเพิ่มคุณภาพของงานเชื่อมได้เป็นที่น่าพอใจช่างเชื่อมสามารถกำหนดจุดของเปลวอาร์คได้แน่นอน ช่วยให้เริ่มต้นอาร์คได้ง่าย แม้ว่าจะเชื่อมบนแผ่นอลูมิเนียมที่สกปรก อีกทั้งสามารถควบคุมเปลวอาร์คและแนวเชื่อมได้ดีกว่าการใช้ทังสเตนบริสุทธิ์ที่ใช้ปลายกลมมนอีกทั้งยังมีอัตราการสิ้นเปลืองต่ำและสามารถทนต่อกระแสเชื่อมได้สูงกว่า

ท้ายที่สุด ท่านต้องไม่ลืมว่าทังสเตนมิได้มีแหล่งผลิตที่เดียวในโลก ดังนั้นคุณภาพของทังสเตนย่อมแตกต่างกันตามแต่ละผู้ผลิต  เมื่อท่านได้รับทังสเตนมาใช้ ควรจะต้องดูปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อคุณภาพการใช้งานประกอบด้วย  แต่แน่นอนที่สุดช่างเชื่อมย่อมต้องการทังสเตนที่สามารถควบคุมเปลวอาร์คและแนวเชื่อมได้ดี โดยเฉพาะทังสเตนที่ปลอดจากกัมมันตภาพรังสี  และเมื่อพิจารณาในมุมมองของเจ้าของกิจการ แน่นอนว่าย่อมจะต้องการทังสเตนที่มีการสิ้นเปลืองน้อย เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย  ดังนั้นการเลือกใช้ทังสเตนที่ถูกต้องและเหมาะกับงานจึงเป็นการเพิ่มคุณภาพงานเชื่อมและลดต้นทุนการผลิตที่ทำได้ง่ายที่สุด

error: Content is protected !!